กระชายดำ |
กระชายดำ
"กระชายดำ" สมุนไพรไทย ชั้นยอดสรรพคุณเทียบเท่าโสมที่คนไทยหลายคนแทบไม่รู้จัก แต่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดโลก นักวิจัยชี้ปรับสมดุล-ชะลอแก่-แก้อักเสบ-เพิ่มความฟิต ปลูกง่าย โตวัยพร้อมต่อยอดอุตสาหกรรม
ปัจจุบันคนเริ่มกลับมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เริ่มกลับมาหาธรรมชาติ เพราะตระหนักถึงพิษภัยจากสารเคมี สมุนไพรจึงกลับเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง โดยเฉพาะในวงการยาสมุนไพร วงการความงาม และการนำสมุนไพรมาใช้ในชีวิตประจำวัน ที่สังเกตได้จากยอดการค้นหาคำสำคัญที่คนไทยค้นจากอินเทอร์เนต ซึ่งคำว่าสมุนไพรติด 1 ใน 10 อันดับที่คนไทยสนใจหาความรู้
กระชายดำ สมุนไพรเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวคนไทยมาโดยตลอดแต่ถูกละเลย เพราะความไม่เชื่อมั่นและค่านิยมในการใช้ยาแผนปัจจุบันจึงทำให้สถิติการใช้ยาสมุนไพรอยู่ที่เพียง 2-3% จากปริมาณการใช้ยารักษาโรคที่เกือบทั้งหมดเป็นการใช้ยาแผนปัจจุบันที่เกิดจากสังเคราะห์ขึ้นมาทั้งสิ้น ทั้งที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านการแพทย์ทางเลือก ด้วยสภาพสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลให้สมุนไพรมีสรรพคุณที่ดี เป็นที่มาของแนวคิดในการพัฒนาเครือข่ายสังคมออนไลน์เกี่ยวกับสมุนไพรและแพทย์ทางเลือก เพื่อเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพร และให้ความรู้แก่ประชาชน
กระชายดำ "ตลาดสมุนไพรในต่างประเทศกำลังเติบโตมาก โดยเฉพาะในยุโรปและประเทศเยอรมันที่มีการใช้ยาสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบันถึง 45% ทั้งที่ประเทศของเขาไม่มีสมุนไพรมากอย่างประเทศไทย ในทางกลับกันคนไทยกลับมองข้ามสมุนไพรมานาน แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ตอนนี้กระแสของสมุนไพรกำลังกลับมาอีกครั้งในวงการสุขภาพ การเข้ามาให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนจึงเป็นสิ่งที่ต้องรีบทำ เพื่อปรับค่านิยมให้คนไทยหันมาใช้สมุนไพรมากขึ้น โดยเว็บไซต์ ShareHerb.com ก็จะเป็นสื่อการเรียนรู้ออนไลน์หนึ่งที่คนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้อย่างมั่นใจ และสบายใจ"
ShareHerb.com (แชร์เฮิร์บ ด็อทคอม) เป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอข้อมูลของสมุนไพรและการแพทย์ทางเลือกในการดูแลสุขภาพ ที่มีระบบตรวจสอบการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพรและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการในการยื่นขอทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) แบบออนไลน์ ซึ่งจดทะเบียนขึ้นในนาม บริษัท แชร์เฮิร์บ จำกัด แบบไม่แสวงหาผลประโยชน์เพื่อเป็นศูนย์รวมของข้อมูลสมุนไพรที่คนทั่วไปเชื่อมั่น โดยได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมในโครงการ "ทุนเครือข่ายวิสาหกิจนวัตกรรม" จำนวน 1.4 ล้านบาท
ในเว็บไซต์จะประกอบไปด้วยบทความสร้างสรรค์เกี่ยวกับสมุนไพรและสุขภาพที่เขียนขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญ ภาพอินโฟกราฟฟิกให้ความรู้แบบเข้าใจได้โดยง่ายที่จะมุ่งเน้นในเรื่องของสมุนไพรและแพทย์ทางเลือก โปรแกรมค้นหาโรคและการรักษา สถานพยาบาลแพทย์ทางเลือก ข้อมูลของสมุนไพร และในส่วนของการถามตอบ คล้ายๆ เว็บไซต์พันทิปที่จะมีผู้รู้คอยตอบคำถามทุกข้อสงสัย และที่สำคัญมีระบบตรวจสอบย้อนกลับที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคและผู้ประกอบการ
โปรแกรมดังกล่าวเป็นซอฟท์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดย บริษัท แชร์เฮลท์ จำกัด, องค์การอาหารและยา (อย.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ผู้บริโภคที่ไม่มั่นใจในสินค้าสามารถนำชื่อสินค้า หรือ เลขทะเบียน อย. มาตรวจสอบว่ามีความปลอดภัย ได้รับทะเบียน อย.จริงหรือไม่ และผู้ประกอบการที่ต้องการขึ้นทะเบียน อย.ก็สามารถลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อกรอกข้อมูลขอจดทะเบียนได้ในเว็บไซต์ นอกจากการเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีเวทีเสวนา 5 สุดยอดสมุนไพรไทยอนาคตรุ่งตัวเก็งการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมโดยผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยสมุนไพรหลายท่าน
รศ.ดร. สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณะการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวในงานเปิดตัวเว็บไซต์ Shareherb.com ว่า สมุนไพรไทยที่เด่นๆ และมีสรรพคุณเป็นที่รู้จักมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน แต่จากการโหวตในเว็บไซต์ก่อนหน้านี้ ของสมาพันธ์สุขภาพและความงามแห่งประเทศไทย ผู้อยู่ในวงการสมุนไพรและประชาชนทั่วไป จำนวน 500 คน ได้จัดอับดับ "กระชายดำ ไพล ขมิ้นชัน กวาวเครือขาวและบัวบก" เป็นสุดยอดสมุนไพรยอดฮิตที่มีประสิทธิภาพสูง และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยสมุนไพรที่น่าสนใจและได้ผลโหวตให้เป็นสุดยอดคือ "กระชายดำ"
"กระชายดำเป็นสมุนไพรในฝันของตลาดโลก มีสรรพคุณเทียบเท่าโสมของเกาหลี ช่วยชะลอวัย ต้านอักเสบและเพิ่มความฟิต กระชายดำมีคุณสมบัติรอบด้านทั้งส่งเสริมสุขภาพ และรักษาในขณะเดียวกัน โดยจะช่วยปรับสมดุลร่างกาย ลดการอักเสบที่เป็นสาเหตุของโรคเอ็นซีดี และโรคมะเร็ง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความฟิตให้ร่างกายทั้งความฟิตของกล้ามเนื้อที่ทำให้รู้สึกมีแรงกระปรี้กระเปร่า และความฟิตทางเพศที่ทำให้กระชายดำต่างเป็นที่ต้องการของสุภาพบุรุษ" รศ.ดร. สุรพจน์ กล่าวบนเวทีสนทนา
นอกจากนี้ ยังใช้เวลาปลูกกระชายค่อนข้างน้อย โดยใช้เวลาเพียง 1 ปี ทำให้กระชายดำเป็นสมุนไพรอันดับ 1 ที่มีโอกาสในการพัฒนาทางอุตสาหกรรมมากกว่าสมุนไพรชนิดอื่นๆซึ่ง รศ.ดร. สุรพจน์ระบุว่า ขณะนี้เป็นมีความต้องการกระชายดำอย่างมากจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ทำให้กระชายดำสดมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงกิโลกรัมละ 900 บาท และจะสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 10,000 บาท หากอยู่ในรูปของสารสกัดจากกระชายดำที่นำมาใช้เป็นส่วนผสมในยาและอาหารเสริม
"กระชายดำของเรานี่ดีที่สุด ดีกว่าโสม สรรพคุณต่างๆมากมายจากการวิจัยทำให้ชาวต่างชาติจำนวนมากไม่ว่าจะญี่ปุ่น เกาหลีต่างสนใจนำกระชายดำมาใช้ แล้วอีกหน่อยประวัติศาสตร์ก็จะซ้ำรอยเหมือนกวาวเครือขาว เพราะขณะนี้ญี่ปุ่นได้ทำสารสกัดกระชายดำขายเป็นที่เรียบร้อย โดยกว้านซื้อจากชาวบ้านในราคาถูก และเกาหลีก็จดสิทธิบัตรกระชายดำเป็นสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มความฟิตของกล้ามเนื้อเป็นของตัวเอง เป็นอีกครั้งที่คนไทยต้องตระหนักถึงสินทรัพย์ของตัวเอง และหันมาสนใจรักษ์ในสมุนไะพรของเราเอง เพราะไม่ใช่ว่าทุกที่จะปลูกสมุนไพรได้ผล แต่ประเทศของเราคือปลูกได้ผล แต่คนไม่ค่อยรู้คุณค่า ถ้ายังไม่ช่วยกันก็เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย" รศ.ดร.สุรพจน์เผย
นอกจากกระชายดำแล้ว ภก.สมนึก สุรชัยธนาวนิช กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่ายังมีอีก 4 สุดยอดสมุนไพรไทยที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ "ไพล" ถือว่าเป็นสมุนไพรอัตลักษณ์ของประเทศไทย ที่มีสรรพคุณช่วยต้านการอักเสบ ลดอาการปวด เป็นยาชาเฉพาะที่ และยังถูกจัดให้เป็นสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่ผลิตภัณฑ์สามารถนำมาใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้
ส่วน "กวาวเครือขาว" เป็นอีกสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแพร่หลาย ทั้งในการทำเป็นอาหารเสริมในสัตว์ ทำครีมกระชับหน้าอกสำหรับสุภาพสตรี เพราะมีฮอร์โมนไฟโตเอสโตรเจนที่ทำให้หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น และยังมีสรรพคุณต้านความชรา ลดเลือนริ้วรอย แต่มีการกำหนดห้ามใช้เกินวันละ 100 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากเป็นฮอร์โมนหากรับมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
สุดยอดสมุนไพรอีกตัวหนึ่งที่ทุกคนรู้จักกันดี "ขมิ้นชัน" ที่มีคุณสมบัติบำรุงหลอดเลือด ป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม รักษาอาการทาลัสซีเมีย และป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน และสมุนไพรตัวสุดท้าย "บัวบก" ผักที่ใครๆเข้าใจว่ารักษาได้แต่อาการช้ำใน แต่จริงๆแล้วสรรพคุณของใบบัวบ่วยได้ทั้งลดอาการแพ้ เพิ่มคอลลาเจน ช่วยสมานผิว ต้านการอักเสบ แก้ร้อนในและป้องกันโรคเบาหวาน
"เรามีทรัพยากรที่มีคุณค่าอยู่แล้ว ขาดแค่ความตระหนักจากเจ้าของอย่างคนไทย ผมหวังว่าเมื่อคนไทยมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องจากแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้ คนไทยจะหันมาใช้สมุนไพรมากขึ้นจนสามารถทดแทนการนำเข้าสารตั้งต้นยาได้ เพราะยาแผนปัจจุบันที่ใช้กันล้วนแล้วแต่สังเคราะห์เลียนแบบจากตัวยาในสมุนไพรทั้งสิ้น" ภก.สมนึกกล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น